การประกันภัยสำหรับวิศวกรรม
( Engineering Insurance )
การประกันภัยสำหรับวิศวกรรมในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 แขนง คือ
1. การประกันภัยเครื่องจักรชำรุดเสียหาย ( Machinery Breakdown Insurance )
อันเกิดจากการใช้เครื่องและจากอุบัติเหตุอื่น ๆ ๆซึ่งพอจะสรุปโดยย่อได้ดังต่อไปนี้
– การออกแบบผิดพลาด
– การดำเนินงานหรือเดินเครื่องผิด ขาดความชำนาญ ประมาท เลินเล่อ
– การถูกกลั่นแกล้งด้วยเจตนาร้าย หรือถูกก่อวินาศกรรม
– การฉีกขาดจากกัน เนื่องมาจากกำลังเหวี่ยงของศูนย์กลาง
– ไฟฟ้าลัดวงจรและสาเหตุทางไฟฟ้าอย่างอื่นๆ
– การขาดน้ำในหม้อน้ำ
– การระเบิดทางฟิสิกส์ ฯลฯ
การประกันภัยเครื่องไม่เพียงมุ่งเพื่อคุ้มครองความชำรุดเสียต่อทรัพย์สิน หรือบรรดาเครื่องจักราเท่านั้นแต่ยังเป็นการช่วยปลดเปลื้องภาระของเจ้าของ เครื่องจักรกล โดยเฉพาะที่เป็นอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ ของเอกชนและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งถ้าปราศจากการคุ้มครองประเภทนี้ แล้วย่อมจะต้องจัดตั้งงบประมาณสำรองไว้เพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินในกรณีที่เกิด ความชำรุดเสียหายต่อเครื่องจักรกลซึ่งอาจจะมีขึ้นทุกเวลาบางอย่างไม่สามารถ จะคาดล่วงหน้าได้
การประกันภัยทุกชนิดในการติดตั้งเครื่องจักรนี้ ให้การคุ้มครองอย่างกว้างขวาง ต่อภัยต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ณ สถานที่ติดตั้งสำหรับเครื่องจักรกลทุกประเภท และทุกขนาด การคุ้มครองพอจะกล่าวโดยย่อๆได้ดังนี้
กรมธรรม์ประกันภัยการเสี่ยงภัยทุกชนิดในการติดตั้งเครื่องจักรนอก จากจะให้ความคุ้มครองแก่ทรัพย์สินที่เอาประกันแล้ว ยังให้ความคุ้มครองความรัยปิดต่อบุคคลภายนอกด้วย โดยบริษัทจะชดเชยผู้เอาประกันภัยสำหรับจำนวนเงินทั้งหมดที่ผู้เอาประกันภัย จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายที่จะต้องชำระค่าเสียหายเนื่องจาก
( ก ) ความบาดเจ็บทางร่างกายหรือเจ็บไข้ ( จะถึงตายหรือไม่ก็ตาม ) อันเกิดแกบุคคลภายนอกโดยอุบัติเหตุ
( ข ) ความสูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพย์สินของบุคคลภายนอกโดยอุบัติเหตุ
การประกันภัยประเภทนี้ได้เริ่มจากเจตนาที่จะให้การคุ้ม ครองอย่างกว้างขวางและเพียงพอแก่งานก่อสร้างรวมทั้งเครื่องจักรกล อุปกรณ์ ฯลฯ ที่ใช้ในงานก่อสร้าง และยังขยายงานคุ้มครองถึงความรับผิดตามกฎหมายต่อสาธารณชนของผู้รับเหมาก่อ สร้าง การประกันภัยประเภทนี้ จะอำนวยประโยชน์ให้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างทุกชนิด การประกันภัยประเภทนี้จึงทำได้โดยการระบุนามของผู้ว่าจ้าง ผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้รับเหมาก่อสร้างช่วง เป็นผู้เอาประกันภัยร่วมกันก็ได้